วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณของสารในสมการเคมี

1. แอสไพริน (C9H8O4)สามารถสังเคราะห์จากปฎิกิริยาระหว่างกรดซาลิซิลิก (C7H6O3)กับแอซีติกแอนไฮไดรด์ (C4H6O3)ดังสมการ

   C7H6O3(s)+C4H6O3(l) → C9H8O4(s)+C2H4O2(l) จงหา
ก. มวลของแอซีติกแอนไฮไดรด์ที่ต้องใช้ในการทำปฎิกิริยาพอดีกับกรดซาลิซิลิกจำนวน  5.00x10ยกกำลัง2 กรัม
ข. มวลของแอสไพรินที่เกิดขึ้นจากปฎิกิริยา


2. การผลิตกรดฟอสฟอริก (H3PO4)เพื่อการค้าจะใช้ทำปฎิกิริยากันดังสมการ
      Ca3(PO4)2(s)+3H2SO4(aq)+6H2O(l) → 3CaSO4•2H2O(s)+2H3PO4(aq)
    จงคำนวณหามวลของกรดซัลฟิวริกเข้มข้น (H2SO4)ที่ต้องใช้ทำปฎิกิริยาพอดีกับแคลเซียมฟอสเฟต (Ca3(po4)2 )จำนวณ 100.0กรัม

3. จะต้องใช้อากาศกี่กรัม เพื่อเผาไหม้ถ่านหิน 120.0 กรัม โดยที่ถ่านหินประกอบด้วยคาร์บอน (C) ร้อยละ 95.0 และส่วนประกอบอื่นที่ไม่เกิดการเผาไหม้ร้อยละ 5.0 กำหนดให้อากาศมีแก๊สออกซิเจน (O2)เป็นองค์ประกอบร้อยละ 23.0 โดยมวลการคำนวณปริมาณสารจากสมการเคมี 

                การเกิดปฏิกิริยาเคมีเป็นไปได้หลายลักษณะ  โดยอาจเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเพียงขั้นตอนเดียว  หรือหลายขั้นตอน  บางครั้งเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์  บางครั้งเกิดไม่สมบูรณ์ 
นอกจากนั้นยังต้องคำนึงถึงผลได้ของปฏิกิริยาด้วย  การคำนวณปริมาณสารจากสมการเคมีมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อการเรียนรู้เคมีในขั้นต่อไปและในธุรกิจอุตสาหกรรมเคมี
รูปแบบของการเกิดปฏิกิริยาที่พบได้มากมี  4  ลักษณะ  ดังนี้ 

  1. ปฏิกิริยาขั้นตอนเดียวที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
  2. ปฏิกิริยาขั้นตอนเดียวแต่เกิดขึ้นไม่สมบูรณ์
  3. ปฏิกิริยามากกว่า 1 ปฏิกิริยาแต่เกิดขึ้นอย่างอิสระ
  4. ปฏิกิริยามากกว่า 1 ปฏิกิริยาแบบต่อเนื่องกัน

ปฏิกิริยาขั้นตอนเดียวที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
                ปฏิกิริยาลักษณะนี้จะประกอบด้วยสมการเคมีเพียง  1  สมการ  โดยมีสารตั้งต้นทุกชนิดอยู่ในปริมาณที่ทำปฏิกิริยากันได้พอดี  คือเมื่อปฏิกิริยาสิ้นสุดแล้ว
จะไม่มีสารตั้งต้นชนิดใดเหลืออยู่เลย  สารตั้งต้นทั้งหมดเปลี่ยนไปเป็นผลิตภัณฑ์  เช่น  2H2(s)  +  O2(g) →  2H2O(g)  เมื่อปฏิกิริยาเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ 
ความสัมพันธ์ของประมาณสารต่าง ๆ ในปฏิกิริยาเป็นดังนี้


2H2(s)
+
O2(g)
2H2O(g)
จำนวนโมล
2
+
1
2
อัตราส่วนโดยจำนวนโมลระหว่าง H2 : O2 : H2O  =  2 : 1 : 2
จำนวนโมเลกุล
2 x 6.02 x 1023
+
6.02 x 1023

2 x 6.02 x 1023
อัตราส่วนโดยจำนวนโมเลกุลระหว่าง H2 : O2 : H2O  =  2 : 1 : 2
มวล (กรัม)
4 g
+
32 g
36 g
อัตราส่วนโดยมวล (กฎสัดส่วนคงที่)ระหว่าง H2 : O2 : H2O  =  1 : 8 : 9
ปริมาตรที่ STP
(dm3)
2 x 22.4 dm3
44.8 dm3
+
22.4 dm3
22.4 dm3
2 x 22.4 dm3
44.8 dm3
อัตราส่วนโดยปริมาตรที่ STP ระหว่าง H2 : O2 : H2O  =  2 :1 : 2

 ความหมายของสมการเคมี
                สมการเคมีต่าง ๆ  จะบอกให้เราทราบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณสารต่าง ๆ  ในปฏิกิริยานั้น ๆ  จากปฎิกิริยาดังตัวอย่าง   2H2(s)  +  O2(g) →  2H2O(g)   
เราสามารถกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณสารต่าง ๆ  ได้หลายลักษณะ  ดังนี้
-                    ก๊าซ H2 จำนวน 2 โมล  ทำปฏิกิริยาพอดีกับก๊าซ O2 จำนวน 1 โมล
-                    จำนวนโมลของก๊าซ H2 ที่ใช้ในการทำปฏิกิริยานี้จะเป็น 2 เท่าของจำนวนโมลของก๊าซ O2 เสมอ  ไม่ว่าจะใช้ในปริมาณมากหรือน้อยเท่าไร
-                    จำนวนโมลของก๊าซ  O2ที่ใช้จะเป็นครึ่งหนึ่งของ  H2 เสมอ  ไม่ว่าจะใช้ปริมาณมากหรือน้อยเท่าไร
-                    ถ้าคิดเป็นน้ำหนัก  ก็จะใช้  H2  จำนวน  4  กรัม  ทำปฏิกิริยาพอดีกับ O2 หนัก  32  กรัม  หรือคิดเป็นอัตราส่วน  1 : 8  เสมอ
-                    หรือกล่าวว่าน้ำหนักของ H ที่ใช้  =  ของน้ำหนักของ O2
-                    หรือกล่าวว่าน้ำหนักของ   O2  ที่ใช้จะเป็น  8  เท่าของน้ำหนัก  H2  เสมอ
-                    ถ้าคิดเป็นจำนวนโมเลกุล  ก็จะใช้  H2  จำนวน  2x6.02x1023 โมเลกุล  ในการทำปฏิกิริยาพอดีกับ  O2  จำนวน   6.02 x 1023  โมเลกุล
-                    ถ้าคิดเป็นปริมาตรของก๊าซที่ STP ก็จะใช้ H2 ปริมาตร  2x22.4 dm3 ทำปฏิกิริยาพอดีกับ O2  จำนวน  22.4 dm3
-                    ถ้าใช้ H2 จำนวน 2 โมล  จะได้ H2O  จำนวน  2  โมล
-                    จำนวนโมลของ H2  ที่ใช้จะ เท่ากับจำนวนโมลของ  H2O  ที่ได้
-                    ใช้ H2 จำนวน  4  กรัม  จะได้  H2O  จำนวน  36  กรัม
-                    ถ้าใช้  O2  จำนวน  1  โมล  จะได้  H2O  จำนวน  2  โมล
-                    จำนวนโมลของน้ำที่ได้จะเป็น 2 เท่าของจำนวนโมลของ O2 ที่ใช้
-                    จำนวนโมลของ O2 ที่ใช้จะเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนโมลของน้ำที่ได้
-                    อื่น ๆ .....

***ปริมาณสารที่ใช้ในปฏิกิริยาต่าง ๆ จะใช้มากขึ้นหรือน้อยลงกว่าจำนวนโมลที่แสดงอยู่ในสมการเคมีก็ได้  แต่เมื่อเพิ่มหรือลดปริมาณของสารใด  สารอื่น ๆ
ก็จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเป็นอัตราส่วนตามจำนวนโมลของแต่ละสารที่แสดงอยู่ในสมการเคมีนั้น ๆ ที่ดุลแล้ว   เนื่องจากการเกิดปฏิกิริยาย่อมเป็นไปตามกฎสัดส่วนคงที่

ตัวอย่าง   จากสมการเคมี     Zn(s)  +  H2SO4(aq)  →  ZnSO4(aq)  +  H2(g)   จะต้องใช้  Zn  หนักกี่กรัม  ในการเตรียม แก๊ส  H2  จำนวน  6.9  dm3  ที่  STP  (Zn = 65)
                1.  13.3                    2.  14.5                    3.  18.6                    4.  19.5

วิธีทำ   ก่อนอื่นต้องติจารณาให้เข้าใจก่อนว่าโจทย์ต้องการทราบสิ่งใด  และโจทย์กำหนดสิ่งใดมาให้  ในที่นี้โจทย์ต้องการทราบน้ำหนักของ  Zn  ว่าจะต้องใช้กี่กรัม  โดยกำหนดปริมาตร  
H2  ที่ต้องการที่  STP  มาให้  กลับไปดูที่สมการเคมีจะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่โจทย์ต้องการทราบกับสิ่งที่โจทย์กำหนดมาให้  ดังนี้ 
 
                พิจารณาจากสมการเคมีก็จะเห็นว่าสิ่งที่โจทย์กำหนดกับสิ่งที่โจทย์ถามมีจำนวนโมลเท่ากัน  การคิดคำนวณควรเริ่มจากเปลี่ยนปริมาตร H2 ที่โจทย์กำหนดมาให้ให้เป็นจำนวนโมล 
ได้เท่าไรก็หมายความว่า  Zn  ที่จะต้องใช้ก็มีจำนวนโมลเท่ากัน  แล้วเปลี่ยนจำนวนโมลของ  Zn  ให้เป็นกรัมก็จะได้คำตอบ
               
                โจทย์กำหนดว่าต้องการ H2 จำนวน  6.9  dm3  ที่  STP  ซึ่งคิดเป็นจำนวนโมล
                 ถ้า H2  มีปริมาตร  22.4  dm3  ที่  STP  มีจำนวนโมล         =              1              โมล
                ถ้า H2  มีปริมาตร  6.9  dm3  ที่  STP  มีจำนวนโมล            =              1 x 6.9 / 22.4    โมล
                                                                                           =               0.30        โมล

จากสมการ                                      จำนวนโมลของ Zn ที่ใช้        =      จำนวนโมลของ H2  ที่ได้    
                                   เพราะฉะนั้นจะต้องใช้จำนวนโมลของ Zn         =  0.3  โมล
                                    คิดเป็นน้ำหนักของ  Zn  ดังนี้
                ถ้ามี  Zn  จำนวน  1  โมล  จะมีน้ำหนัก                              =  65        กรัม
                ถ้ามี  Zn  จำนวน  0.3  โมล  จะมีน้ำหนัก                           = 65 x 0.3
                                                                                             =  19.5  กรัม   ตอบ             

                                                 
                ใช้สูตร